เรียนร้องเพลง เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
ห่างหายไปซะนาน วันนี้เราลองมาคิดเล่นๆกันนะคะ ถ้าถามว่า “คุณๆทั้งหลายออกกำลังกายเป็นไม๊คะ” คำตอบที่ได้ แน่นอนค่ะ เป็นสิคะ อ้าว!!!…แล้วทำไมคุณๆถึงต้องเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ จ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวมาคอยดูแลด้วยล่ะคะ ก็แค่ เดินๆ วิ่งๆ ยกเวท แค่เนี้ยอ่ะ
นั่นสิเนอะ เพราะคุณๆอยากเห็นผลกับการออกกำลังกาย อยากลดน้ำหนัก อยากได้กล้ามเนื้อสวยเป็นซิคแพค มันก็แบบเดียวกันกับการร้องเพลงอ่ะค่ะ ใครๆก็ร้องเพลงได้ แต่ทำไมต้องมาเรียน? ทำไมต้องมีครูสอนร้องเพลง? ก็ร้องเพลงได้กับร้องเพลงเป็นมันไม่เหมือนกันนะจะบอกให้ ร้องยังไงให้ถูกต้อง ร้องยังไงให้มีพาวเวอร์ ร้องยังไงให้เพราะกินใจผู้ฟัง ถ้าต้องการผลขนาดนี้ บอกได้คำเดียวค่ะ ว่าต้องมีครูผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เสียงคอยดูแล เสมือนหนึ่งมีเทรนเนอร์ประจำตัวนั่นเอง
อย่ามัวแต่เสียดายว่าจะคุ้มค่าไม๊ เพราะหากคุณฝึกซ้อมแบบผิดๆ มันจะเป็นการสร้างความเคยชินให้คุณร้องเพลงแบบผิดๆต่อไป ถ้าปล่อยมันไปเรื่อยๆอาจทำให้เกิดความเสียหายกับเส้นเสียง+ กล่องเสียง+ ช่องคอ ของตัวเองได้ และทำให้กลายเป็นความเคยชิน เวลาร้องเพลงทุกครั้งก็จะร้องแบบผิดๆ ทีนี้พอคิดจะมาแก้ไขทีหลังก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และต้องใช้เวลานานพอสมควร
เคยมีนักร้องตามผับและร้านอาหารต่างๆ มาเรียนกับครูเพื่อจะแก้ไขวิธีการร้องของตัวเองให้ดีขึ้น ให้ขึ้นเสียงสูง ลงเสียงต่ำได้สบายขึ้น ไม่ใช้เสียงอยู่ที่คอ ตอนนี้เค้ารู้สึกเหมือนคอจะพัง เสียงจะพังแล้ว เพราะใช้เสียงเยอะทุกวัน ต้องร้องเพลงทุกวัน บอกเลยว่ากว่าจะแก้ไขได้ เล่นเอาหืดขึ้นคอกันทั้งครูทั้งนักเรียน เพราะทำผิดมาบ่อยจนมันชิน และติดเป็นนิสัย บางคนครูถึงกับต้องขอร้องให้หยุดงานร้องเพลงซักพัก เพื่อมาแก้ไขให้หายกันเลยทีเดียว
จริงๆแล้ว ถ้าเริ่มต้นฝึกร้องเพลงอย่างถูกวิธี น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะการมีเทรนเนอร์ นอกจากจะประหยัดเวลา ในการงมหาเทคนิคที่ถูกต้องแล้ว ยังเห็นผลเร็วขึ้น และช่วย save ช่องคอ+เสียง ให้เรามีใช้ไปได้นานๆอีกด้วย
เพราะฉะนั้นหากคิดจะเป็นนักร้องที่ดี.. บอกเลยนะคะว่า อย่ารอให้เกิดผลเสียก่อนแล้วค่อยแก้ไข เพราะบางทีอาจจะสายเกินไปกับโอกาสที่มีเข้ามานะจ๊ะ ^^